‘สนุก’เอาใจหนอนหนังสือ

‘สนุก’เอาใจหนอนหนังสือ ผนึก‘4DBOOK’ขายอีบุ๊ก ปัจจุบันเว็บไซต์สนุกมีผู้เข้าเยี่ยมชมมากกว่า 35 ล้านคนต่อเดือน จึงเปรียบเสมือนชุมชนหนึ่ง จึงต้องการพัฒนาให้มีบริการและเนื้อหาที่หลากหลาย

ยุคสมัยที่เทคโนโลยีก้าวหน้า การอ่านหนังสือจึงไม่จำกัดเฉพาะในแบบรูปเล่มสิ่งพิมพ์อย่างเดียวอีกต่อไป เมื่อหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หรือ อีบุ๊ก (E-Book) เริ่มเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น สำนักพิมพ์ และเจ้าของหนังสือ จึงเริ่มหันมาทำอีบุ๊กขายผ่านช่องทางออนไลน์ควบคู่ไปกับการขายแบบฉบับพิมพ์ผ่านร้านหนังสือแบบเดิม

เช่นเดียวกับเว็บไซต์สนุก ได้จับมือโฟร์ดี บุ๊คส์ เอาใจหนอนหนังสือเปิดบริการ อีบุ๊ก (Books.sanook.com) ให้คนรักการอ่านได้เลือกซื้ออีบุ๊กที่หลากหลาย สามารถอ่านผ่านอุปกรณ์ที่หลากหลายได้ทุกที่ทุกเวลา

นายจักรพันธ์ พวงแก้ว ประธานฝ่ายสื่อโฆษณาออนไลน์ บริษัท สนุกออนไลน์ จำกัด เปิดเผยว่า บริการอีบุ๊กที่เว็บไซต์สนุก(www.sanook.com) ได้ร่วมมือ โฟร์ดี บุ๊คส์ (4DBOOK) จะเป็นร้านหนังสือในรูปแบบอีบุ๊กที่รวมหนังสือหลายประเภท ทั้งหนังสือวิชาการ นวนิยาย นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ฯลฯ จัดเป็นหมวดหมู่ เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัยเพื่อให้บริการกับผู้ใช้งานเว็บไซต์สนุกที่มีผู้เข้าใช้งานมากกว่า 35 ล้านคนต่อเดือน ได้สามารถสั่งซื้อและดาวน์โหลดได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์สนุก รวมถึงแอพพลิเคชั่น 4DBOOK ที่รองรับทั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ไอโอเอส และวินโดว์สพีซี

ปัจจุบันเว็บไซต์สนุกมีผู้เข้าเยี่ยมชมมากกว่า 35 ล้านคนต่อเดือน จึงเปรียบเสมือนชุมชนหนึ่ง จึงต้องการพัฒนาให้มีบริการและเนื้อหาที่หลากหลาย ทั้งในเรื่องของมัลติมีเดีย วิดีโอ ข่าวสาร และเกม รวมถึงล่าสุด คือ อีบุ๊ก ที่เป็นเสมือนคลังหนังสือ เพื่อคนรักการอ่านในยุคดิจิตอล”

นายพีรศักดิ์ จันทร์สิวานนท์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ บริษัท โฟร์ดี บุ๊คส์ จำกัด กล่าวว่า ในสหรัฐอเมริกา อีบุ๊กได้รับความนิยมมากว่า 5 ปี จนปัจจุบันมีมูลค่าตลาดมากกว่า 8,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนยอดขายหนังสือแบบสิ่งพิมพ์ลดเหลือ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ขณะที่ประเทศไทย อีบุ๊กเริ่มได้รับความนิยมมาประมาณ 3 ปี เท่านั้น โดยตลาดหนังสือแบบสิ่งพิมพ์มีมูลค่าประมาณ 24,600 ล้านบาท ส่วนอีบุ๊ก มีมูลค่าประมาณ 400 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.5% ของตลาดหนังสือแบบสิ่งพิมพ์ จึงยังมีช่องว่างอีกมาก และมีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดดในแต่ละปี โดยคาดหมายว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 20% หรือมีมูลค่ามากกว่า 4,000 ล้านบาท

โฟร์ดีบุ๊ค ถือเป็นแพลตฟอร์มหนึ่งในการให้บริการอีบุ๊ก ในระบบปฏิบัติการไอโอเอส แอนดรอยด์ และวินโดว์สพีซี ทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งในสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์พีซี และโน้ตบุ๊ก โดยมีอีบุ๊กที่เป็นหนังสือและนิตยสาร แบ่งเป็น 41 หมวดหมู่ เป็นจำนวนประมาณ 1 หมื่นเล่ม จากมากกว่า 100 สำนักพิมพ์ และยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการก็มีผู้เข้ามาดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นแล้ว 2.6 หมื่นดาวน์โหลด ซึ่งการร่วมมือขายอีบุ๊กผ่านเว็บไซต์สนุก ซึ่งมีฐานผู้เข้าเยี่ยมชมจำนวนมากจะช่วยให้โฟร์ดี บุ๊คส์ ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น

นายพีรศักดิ์ กล่าวต่อว่า จุดเด่นของโฟร์ดีบุ๊ค สามารถใช้งานได้ในอุปกรณ์ที่หลากหลาย ล็อกอินจากเครื่องไหนก็ได้ พร้อมมี คลาวด์ สตอเรจ ที่ให้ผู้ใช้งานเก็บหนังสือที่ดาวน์โหลดมาอ่านไว้ได้ไม่ต้องเปลืองเนื้อที่หน่วยความจำของเครื่อง และสามารถดึงกลับมาอ่านได้เมื่อต้องการ และเลือกอ่านหนังสือได้ 15 หน้าก่อนทำการสั่งซื้อ และสามารถอ่านได้ตั้งแต่หน้าแรกที่ดาวน์โหลด โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาให้ดาวน์โหลดเสร็จทั้งเล่ม นอกจากนี้อีบุ๊กที่เปิดให้ดาวน์โหลดยังมีราคาถูกกว่าแบบฉบับพิมพ์อย่างน้อย 30-50% ด้วย

ปัจจุบันมีคนไทยที่ใช้สมาร์ทโฟนมีการใช้แอพพลิเคชั่นอีบุ๊กประมาณ 4-5 ล้านคน จึงตั้งเป้าหมายมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 20% ในอีก 3 ปีข้างหน้า ส่วนในปีแรกคาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดไม่ต่ำกว่า 8% ซึ่งการที่มีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายทั้งบัตรเครดิต เดบิตวีซ่า การจ่ายผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร โอนจากตู้เอทีเอ็ม และจ่ายผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสเชื่อว่าจะทำให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายได้” นายพีรศักดิ์ กล่าว

ด้านนายจักรพงษ์ คงมาลัย หัวหน้าฝ่ายธุรกิจเนื้อหา บริษัท สนุก ออนไลน์ จำกัด กล่าวว่า จากการเก็บสถิติของสนุกพบว่า จำนวนผู้เข้ามาเยี่ยมชมจำนวน 35 ล้านคนต่อเดือนนั้น เป็นนักอ่านหรือหนอนหนังสือมากกว่า 25% ซึ่งมีทั้งกลุ่มเด็ก กลุ่มแคมปัสเรียนมหาวิทยาลัย หนุ่มสาววัยเริ่มทำงานไปจนถึงวัยกลางคนที่ติดตามอ่านสนุกตั้งแต่ 17 ปีที่แล้ว การเปิดบริการอีบุ๊กทำให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อหนังสือที่สนใจ รวมถึงมีหนังสือฟรีให้ดาวน์โหลดอ่านด้วย อย่างไรก็ตามไม่ได้คาดหวังว่าการเปิดบริการอีบุ๊กจะช่วยทำให้ยอดคนเข้าเยี่ยมชมเพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่หวังจะช่วยให้คนที่เข้าเยี่ยมชมใช้เวลาออนไลน์ยาวนานมากขึ้น จากปัจจุบันที่คนนิยมเข้าชมผ่านสมาร์ทโฟนเพิ่มมากขึ้นแต่ใช้เวลาเยี่ยมชมน้อยลง.

ที่มา: