เคล็ดไม่ลับ สำหรับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในตอนเช้าเพื่อถนอมสายตา

เคล็ดไม่ลับ สำหรับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในตอนเช้าเพื่อถนอมสายตา

หมวดหมู่: บทความทั่วไปTip & Technic

สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในตอนเช้าเพื่อถนอมสายตา


ดวงตาเป็นอวัยวะที่ใช้งานหนักที่สุดอย่างหนึ่งของร่างกาย โดยเฉพาะในยุคที่เราเริ่มต้นวันด้วยหน้าจอมือถือหรือคอมพิวเตอร์ การถนอมสายตา ตั้งแต่ช่วงเช้าไม่เพียงแต่ลดความเมื่อยล้าในระหว่างวัน แต่ยังป้องกันโรคตาในระยะยาว เช่น ตาแห้ง ตาล้า หรือปวดศีรษะจากการใช้สายตาอย่างต่อเนื่อง ลองมาดูกันว่าเราควรเริ่มต้นเช้าแบบไหน เพื่อรักษาสุขภาพตาให้สดใสไปได้นาน ๆ


ทำไมการถนอมสายตาในตอนเช้าจึงสำคัญ
ตอนเช้าเป็นช่วงเวลาที่ดวงตาต้องเปลี่ยนผ่านจากภาวะพักผ่อนสู่การใช้งานจริงทันที การเปิดรับแสงสว่างกะทันหัน หรือใช้สายตาเพ่งจอทันทีหลังตื่น อาจเร่งให้ดวงตาเกิดอาการล้าเร็วกว่าปกติ และหากเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อาจส่งผลต่อสุขภาพตาในระยะยาว เช่น


การเสียสมดุลน้ำหล่อเลี้ยงในดวงตา

  • ปัญหา ตาแห้งเรื้อรัง
  • การล้าสายตาแบบไม่รู้ตัว ซึ่งสะสมกลายเป็นอาการปวดหัวหรือไมเกรน
  • การเริ่มต้นวันอย่างถูกต้องจึงเป็นพื้นฐานสำคัญในการถนอมสายตา และลดความเครียดที่เกิดจากการจ้องหน้าจอเป็นเวลานานในช่วงกลางวัน


สิ่งที่ควรทำในตอนเช้าเพื่อถนอมสายตา

1.เปิดม่านให้แสงธรรมชาติเข้ามาแทนไฟสว่างจ้า
แสงธรรมชาติช่วยกระตุ้นนาฬิกาชีวิตโดยไม่ทำร้ายดวงตา การใช้แสงไฟจ้าเกินไปทันทีหลังตื่นอาจรบกวนการปรับตัวของดวงตา


2.ล้างหน้าด้วยน้ำเย็นเบา ๆ เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อตา
น้ำเย็นช่วยลดอาการบวมรอบดวงตา กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และทำให้ตารู้สึกสดชื่น


3.ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้วทันทีหลังตื่นนอน
ภาวะขาดน้ำส่งผลให้ดวงตาแห้ง เนื่องจากน้ำเป็นส่วนประกอบหลักของน้ำตา การดื่มน้ำช่วยให้ตาชุ่มชื้น


4.บริหารดวงตาเบา ๆ ด้วยการกลอกตาเป็นวงกลม
ทำช้า ๆ วันละ 1–2 รอบช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงจากการนอนหลับท่าเดิมนาน ๆ และช่วยถนอมสายตา


5.พักตาให้พร้อมก่อนดูจอ
แทนที่จะหยิบมือถือทันทีหลังตื่น ควรรอให้ตาได้ปรับตัวสัก 15–30 นาที เพื่อให้ระบบปรับแสงของตาทำงานอย่างเหมาะสม



สิ่งที่ไม่ควรทำในตอนเช้าเพราะจะทำร้ายดวงตา

1.หยิบมือถือทันทีหลังตื่นนอน
แสงสีฟ้าเข้มจากจอในสภาพแวดล้อมที่ยังมืด อาจเร่งให้ดวงตาเกิดความเครียดและเร่งภาวะตาแห้งโดยไม่รู้ตัว


2.เปิดหน้าจอด้วยความสว่างเต็มที่
ควรตั้งค่าความสว่างอัตโนมัติ หรือปรับลดเองให้สอดคล้องกับแสงในห้อง เพื่อหลีกเลี่ยงอาการแสบตา


3.ขยี้ตาแรง ๆ โดยไม่ได้ล้างมือ
ขี้ตาอาจเกิดจากโปรตีนตกค้าง หากขยี้แรงอาจทำให้เส้นเลือดฝอยใต้ตาแตก และเพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อในดวงตา


4.เพ่งกับหน้าจอ ไม่กระพริบตา
ช่วงแรกของการใช้งานหน้าจอ เราจะจดจ่อกับข่าวสารใหม่ๆ ของวัน  มักเพ่งโดยไม่รู้ตัว ทำให้น้ำตาระเหยไวขึ้น ควรหมั่นกระพริบตาทุก 5–10 วินาที


การถนอมสายตา ไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่เริ่มได้ทุกเช้า เพียงปรับเปลี่ยนนิสัยเล็ก ๆ เช่น หลีกเลี่ยงแสงจ้าทันทีหลังตื่น พักตาก่อนดูจอ ดื่มน้ำให้เพียงพอ และหมั่นบริหารดวงตาเบา ๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นพื้นฐานที่ช่วยปกป้องดวงตาให้ใช้งานได้ดีในระยะยาว


เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ และเป็นเครื่องมือสำคัญของชีวิตยุคดิจิทัล เราจึงควรเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ตาพร้อมรับมือกับภารกิจตลอดทั้งวันอย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

สนับสนุนเนื้อหา: 

ไอทีจีเนียส เอ็นจิเนียริ่ง (IT Genius Engineering) ให้บริการด้านไอทีครบวงจร ทั้งงานด้านการอบรม (Training) สัมมนา รับงานเขียนโปรแกรม เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น งานออกแบบกราฟิก และงานด้าน E-Marketing ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้ง SEO , PPC , และ Social media marketting

ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ

Line : @itgenius (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://lin.ee/xoFlBFe
Facebook : https://www.facebook.com/itgeniusonline
Tel : 02-570-8449 มือถือ 088-807-9770 และ 092-841-7931
Email : contact@itgenius.co.th

แนะนำหลักสูตรอบรมที่น่าสนใจ

user
โดย Nong-beam
เข้าชม 53 ครั้ง

คำค้นหา : สายตาการบำรุงสายตาการถนอมสายตาดวงตาถนอมสายตาเทคนิคถนอมสายตาปัญหาสายตาการดูแลสายตาการฟื้นฟูสายตา