เปิดราคา realme 14T 5G ใหม่ ในราคาต่ำหมื่น

เปิดราคา realme 14T 5G ใหม่ ในราคาต่ำหมื่น

 

realme แบรนด์สมาร์ตโฟนที่เน้นเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ ได้ประกาศเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล Number Series คือ realme 14T 5G ชูจุดเด่นด้านประสิทธิภาพการใช้งานที่ยาวนาน เทคโนโลยีการชาร์จที่ล้ำสมัย และคุณสมบัติต่างๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งการเล่นเกมและการใช้งานทั่วไปในเซกเมนต์ราคาเข้าถึงง่าย

แบตเตอรี่ใหญ่ระดับ Titan พร้อมเทคโนโลยี C-Pack และ Bypass Charging

realme 14T 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6,000mAh ซึ่งทาง realme เรียกว่าระดับ Titan เสริมด้วยเทคโนโลยี C-Pack เอกสิทธิ์เฉพาะที่ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของพลังงานได้ถึง 20% (780Wh/L) โดยที่ตัวเครื่องยังคงความบางได้ พร้อมฟีเจอร์ Bypass Charging ที่ช่วยลดความร้อนระหว่างการชาร์จโดยตรงไปยังระบบแทนแบตเตอรี่ ซึ่งไม่เพียงช่วยรักษาอุณหภูมิ แต่ยังยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น

ความจุแบตเตอรี่ขนาด 6000mAh นี้ มอบระยะเวลาการใช้งานที่น่าประทับใจ โดยสามารถเล่นเกมกราฟิกสูงอย่าง Free Fire ได้ต่อเนื่องถึง 11.5 ชั่วโมง หรือรับชมวิดีโอสตรีมมิ่งได้นานถึง 17.2 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และรองรับการใช้งานทั่วไปได้สูงสุดถึง 1.2 วัน

ทนทานต่อสภาวะการใช้งาน ด้วยมาตรฐาน IP สูงสุด

realme 14T 5G โดดเด่นด้านความทนทานด้วยการผ่านการรับรองมาตรฐานกันน้ำและกันฝุ่นระดับ IP69/IP68/IP66 ซึ่ง realme เคลมว่าเป็นระดับสูงสุดในตลาดสมาร์ตโฟนปัจจุบัน มอบความมั่นใจในการพกพาและใช้งานในหลากหลายสภาพแวดล้อม ทนทานต่อฝุ่น ละอองฝน และน้ำกระเซ็นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

จอแสดงผล E-Sport AMOLED 120Hz ตอบสนองรวดเร็ว ถนอมสายตา

เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมและการรับชมคอนเทนต์ที่เหนือกว่า realme 14T 5G ติดตั้งจอแสดงผลแบบ AMOLED Esports Display อัตรารีเฟรช 120Hz ให้ภาพสวย สีสันสดใส และความลื่นไหล มาตรฐานเดียวกับจอเกมมิ่งระดับสูง ด้วยอัตราความไวต่อการสัมผัส (Touch Sampling Rate) สูงถึง 1500Hz ทำให้ตอบสนองการสัมผัสในเกมได้อย่างรวดเร็วทันใจ ความสว่างสูงสุดของหน้าจออยู่ที่ 2,000nit ช่วยให้มองเห็นชัดเจนแม้ในที่แสงจ้า นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีถนอมสายตาระดับสูง PWM + DC Dimming ช่วยลดอาการตาล้าเมื่อใช้งานในสภาพแสงน้อย

ประสิทธิภาพชิปเซ็ต Dimensity 6300 5G พร้อมระบบระบายความร้อนขั้นสูง

realme 14T 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 6300 5G ซึ่งในการทดสอบ AnTuTu Benchmark สามารถทำคะแนนได้สูงถึง 460,000 คะแนน ชิปเซ็ตนี้ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพด้านกราฟิก (GPU) สูงขึ้น 50% และรักษาเฟรมเรตในเกมความละเอียดสูงได้ดีขึ้น 13% เมื่อเทียบกับคู่แข่งในเซกเมนต์เดียวกัน นอกจากนี้ ยังมีการยกระดับประสิทธิภาพด้านพลังงานของทั้ง CPU และ GPU อีก 11% ทำให้สามารถเล่นเกมอย่าง Free Fire ได้เฟรมเรตที่ 60FPS ได้อย่างเสถียรต่อเนื่องถึง 2 ชั่วโมง โดยไม่มีปัญหาเครื่องร้อนหรือเฟรมตก

สำหรับการจัดการความร้อน realme 14T 5G มาพร้อมระบบ Bionic Cooling System ที่ใช้แผ่นระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber (VC) ขนาดใหญ่กว่า 1700mm² ผลิตจากวัสดุตัวนำความร้อนประสิทธิภาพสูง ซึ่งนำความร้อนได้ดีกว่ากราไฟต์ทั่วไปถึง 10 เท่า ช่วยรักษาความเสถียรของตัวเครื่องขณะใช้งานหนักหรือเล่นเกมต่อเนื่อง

ยกระดับประสบการณ์การเชื่อมต่อและเกมมิ่ง

realme 14T 5G เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่ติดตั้งเสาสัญญาณ Wi-Fi Smart Switching Gaming Antenna ที่ออกแบบมาเพื่อลดความหน่วงในการเชื่อมต่อในสภาพแวดล้อมที่สัญญาณอ่อน เช่น ในรถไฟฟ้าใต้ดินหรือที่จอดรถชั้นใต้ดิน โดยเคลมว่าช่วยลดความหน่วงได้มากกว่า 30%

นอกจากนี้ ยังมีโหมด GT Boost ที่ทำงานด้วยเทคโนโลยี Game Underlying Scheduling Technology เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม ซึ่งประกอบด้วย In-Game Memory Optimization, Low Power Consumption and Endurance Optimization และ Intelligent Dual-Channel Network Optimization ไฮไลต์สำคัญคือฟีเจอร์ AI Motion Control ที่ใช้ Gyroscope ในการควบคุมเกมด้วยการเคลื่อนไหวคล้าย Nintendo Switch และ AI Ultra Touch Control ที่ช่วยปรับแต่งการตอบสนองการสัมผัสในเกมเพื่อเพิ่มความแม่นยำ

realme UI 6.0 และกล้อง AI 50MP

realme 14T 5G รันบน realme UI 6.0 ที่ได้รับการปรับปรุงดีไซน์ให้เรียบง่าย ทันสมัย พร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น Wallpaper Depth ที่แยกวัตถุและพื้นหลัง และการปรับขนาด Notification/Quick Setting ให้ใหญ่ขึ้นเพื่อความสะดวกในการใช้งาน

ด้านการถ่ายภาพ มาพร้อมกล้องหลังหลักความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.8 รองรับการเก็บภาพรายละเอียดสูง และมีฟีเจอร์ AI Editor ช่วยยกระดับภาพถ่าย ทั้ง AI Eraser สำหรับลบวัตถุที่ไม่ต้องการ และ AI Motion Deblur สำหรับแก้ไขภาพสั่นเบลอ

ราคาและการจำหน่าย

realme 14T 5G วางจำหน่ายในรุ่นความจุ 8GB/256GB มีให้เลือก 2 สี คือ Lightning Purple และ Obsidian Black ในราคา 8,999 บาท เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป ผ่านช่องทาง realme Brand Shop และศูนย์จำหน่ายสมาร์ตโฟนชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษจากผู้ให้บริการเครือข่าย True และ Dtac และช่องทางอีคอมเมิร์ซ (Shopee, Lazada, Tiktok Shop)

ที่มา: sanook.com/hitech/1612959