50 ข้อเท็จจริงของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์

50 ข้อเท็จจริงของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์

หมวดหมู่: บทความทั่วไปAndroidข่าวไอที

50 ข้อเท็จจริงของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
บนโลกของมือถือ มีระบบปฏิบัติการยอดนิยมแข่งขันกันอยู่เพียงแค่สองเจ้า คือ iOS ของ Apple และ Android ของ Google เรื่องราวของ Apple น่าจะเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว เพราะมีทั้งหนังสือและภาพยนตร์ออกมามากมาย แล้ว Android ล่ะ ดูเหมือนเราจะไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับมันมากนัก นอกจากเรื่องที่ Google เป็นคนพัฒนาขึ้นมา วันนี้เรามาทำความรู้จักมันให้มากขึ้นดีกว่า กับ 50 เรื่องที่คนไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับ Android

1. Android คือ หุ่นยนต์เพศผู้ เพราะถ้าเพศเมียเราจะเรียกว่า Gynoid
2. องค์การ Nasa เคยสร้างดาวเทียมราคาถูกเรียกว่า Phonesat โดยใช้ Nexus One ในการควบคุมการทำงาน
3. ในการเชื่อมต่อ Android กับ Computer จะใช้ซอฟท์แวร์ที่เรียกว่า ADB ย่อมาจาก Android Debug Bridge
4. Amazon Kindle Fire ใช้ระบบปฏิบัติการ Fire OS ซึ่งที่จริงแล้ว มันก็คือ Android เวอร์ชั่นที่ไม่มี Google apps นั่นเอง
5. Androdi 4.4 ที่รู้จักกันในชื่อ KitKat เคยถูกเรียกว่า KLP หรือ Key Lime Pie ก่อนที่จัดจัดสินใจเปลี่ยนเป็นคิทแคทในช่วงสุดท้ายก่อนเปิดตัว
6. แอพฯ บน Android ส่วนใหญ่จะเขียนด้วย Java ผ่าน Android SDK หรือไม่ก็เขียนด้วย C/C++ ผ่าน Android NDK
7. แอพฯของ Android จะทำงานอยู่บน Secure sandbox ซึ่งจำกัดการเข้าถึงระบบ นอกเสียจากว่าผู้ใช้จะเป็นคนกดอนุญาตให้สิทธิเอง
8. Android จะปิดการทำงานของแอพฯอัตโนมัติเมื่อทรัพยากรบนเครื่องเหลือน้อย การปิดการทำงานด้วยตนเองจึงไม่จำเป็น แต่แน่นอนว่า หลายๆ ครั้งมันปิดให้เราเองแม้ว่าเราจะกำลังเล่นแอพฯนั้นอยู่ก็ตาม T^T
9. ที่จริงแล้ว Android พัฒนาบนพื้นฐานของ Linux ที่เป็น Open source
10. Android 5.0 Lollipop ได้เปลี่ยนแปลงโค้ดการทำงานจาก Dalvik เป็น ART เป็นครั้งแรกที่เปลี่ยนรูปแบบการทำงานแบบ Just In Time ให้เป็น Ahead Of Time เราจึงเห็นได้ว่า Lollipop นั้นลื่นกว่าเดิมมาก
11. Android บน TV มีชื่อเรียกว่า Android TV, Android บนนาฬิกาข้อมือเรียกว่า Android Wear และ Android บนรถยนต์เรียกว่า Android Auto
12. Android ถูกพัฒนาขึ้นในปี 2003 ซึ่งในทีมพัฒนามี Audy Rubin ผู้สร้างเครือข่ายโทรศัพท์ชื่อดังอย่าง T-Mobile อยู่ด้วย
13. เดิมที Android ตั้งใจจะพัฒนาให้เป็นระบบปฏิบัติการบนกล้องถ่ายรูปดิจิตอล แต่แล้วก็พบว่ามันเหมาะกับการทำงานบนโทรศัพท์อย่างมาก
14. การตั้งชื่อรุ่นของแอนดรอยด์ด้วยชื่อขนมนั้น เริ่มจากเวอร์ชั่น 1.5 เป็นครั้งแรก นั่นก็คือ Android C Cupcake
15. Chrome OS สามารถรันแอพฯของ Android ได้
16. มักจะมีปัญหาเกิดขึ้นเมื่อเราใช้ microSD บนแอนดรอยด์ Google จึงตัดสินพัฒนา Android M ใหสนับสนุนการทำงานของ microSD ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่รุ่นเรือธงในปัจจุบันเลือกที่ตัดดช่องนี้ออกไปแล้ว
17. การเข้าถึงโหมด Developer บนแอนดรอยด์นั้นต้องทำการกดสูตรเล็กน้อย ด้วยการกดไปที่ Build number ที่อยู่ใน About รัวๆ 7 ครั้ง
18. Android ทุกเวอร์ชั่นมีความลับ Easter egg ซ่อนอยู่ กดดูได้ด้วยการกดไปที่เลขเวอร์ชั่นในหน้า About
19. เราสามารถดูข้อมูลของโทรศัพท์แอนดรอยด์อย่างละเอียดได้ด้วยการกด *#*#4636#*#* ผ่านแอพฯ Phone
20. แอนดรอยส์มีหลายเวอร์ชั่น และเกือบทุกเวอร์ชั่นยังคงได้รับการใช้งานอยู่ โดยเวอร์ชั่นที่มีคนใช้งานมากที่สุดในขณะนี้ คือ Kitkat
21. Google เข้าซื้อกิจการผลิตโทรศัพท์แอนดรอยด์ของ Motorola ในปี 2011 ก่อนที่จะขายออกไปให้ Lenovo ในปี 2014
22. ที่จริงแล้ว Android พัฒนาโดยบริษัท Amdroid Inc. แต่ Google ซื้อกิจการมาพัฒนาต่อ คาดว่าราคาในการซื้อขายอยู่ที่ประมาณห้าสิบล้านดอลลาห์
23. เดิมที่ แอพฯอย่าง Gmail และ Play Store ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของ Android แต่ Google จัดการใส่เข้ามาในภายหลัง
24. ล่าสุด Google ได้ปล่อยเครื่องมือพัฒนาแบบฟรี Android Studio development tool โดนพัฒนามาจาก IntelliJ IDEA
25. Android มีระบบ Play Games ให้นักพัฒนาได้ใช้งานด้วย ในการสร้าง Leaderboards และ Achievements เหมือนบนเครื่องเกมคอนโซล
Google สร้างแท็บเล็ต Nexus ครั้งแรกในปี 2012 พัฒนาโดย Asus ถูกเรียกว่า Nexus 7 และอกอรุ่นใหม่ในปี 2013
27. Scott Horn แห่งไมโครซอฟท์เคยวิจารณ์ว่า Android ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่และน่าสนใจเลยสักนิด ตอนนี้คงรู้แล้วว่าเขานั้นคิดผิด
28. Android Wear รุ่นแรกๆ ส่วนใหญ่จะใช้ Snapdragon 400 เป็นซีพียูในการทำงาน
29. Nokia (ที่ไม่ใช่ส่วนที่อยู่กับไมโครซอฟท์) ได้พัฒนาแท็บเล็ตแอนดรอยด์ออกมาในชื่อ N1 ด้วยนะ
30. Nokia ที่อยู่ภายใต้การดูแลของไมโครซอฟท์ เคยผลิตแอนดรอยด์โฟนออกมาสองรุ่น คือ Nokia X และ Nokia XL
31. ฟีเจอร์ของแอนดรอยด์ที่สิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรรี่มากที่สุด คือ Location services และ History การปิดสองฟังค์ชั่นนี้ จะช่วยยืดอายุการทำงานได้เป็นอย่างมาก
32. เครื่องต้นแบบของแอนดรอยด์ผลิตโดย HTC และมีหน้าตาคล้ายกับสมาร์ทโฟนจาก BlackBerry
33. แอนดรอยด์เครื่องแรกที่วางจำหน่ายขายผ่านเครือข่าย T-Mobile G1 มีชื่อเรียกว่า HTC Dream
34. จุดแข็งที่สุดของ Android คือการแชร์ข้อมูลร่วมกันระหว่างแอพฯ การทำงานนี้มีชื่อเรียกว่า Intents
35. ในขณะนี้มีแอพฯถูกดาวน์โหลดผ่าน Google Play Store ไปแล้วถึง 60,000,000,000 ครั้ง
36. ยี่ห้อ Droid เจ้าของคือ Verizon และถูกใช้เป็นชื่ออุปกรณ์จาก HTC, Motorola และ Samsung
37. ในปี 2015 แอนดรอยด์โฟนที่สเปคใกล้เคียงกับพีซีออกมาเป็นตัวแรก ด้วยชิพ Intel และแรมถึง 4GB นั่นก็คือ Asus Zenfone 2
38. หุ่นเขียวมาสคอตของแอนดรอยด์นั้นมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Bugdroid
39. UI ของระบบปฏิบัติการ Android  ได้รับการปรับปรุงเป็นครั้งแรกในเวอร์ชั่น 4 Ice Cream Sandwich และ HOLO
40. ซีพียูของ Android Wear Moto 360 ใช้ซีพียู TI OMAP ตัวเดียวกับที่ใช้บน Google Glass
41. การออกแบบของ Nexus One นั้นได่รับอิทธิพลมาจากรุ่นยอดนิยมอย่าง HTC Desire
42. Open Handset Alliance  เป็นกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจ ของบริษัทผู้พัฒนามาตรฐานเปิดสำหรับอุปกรณ์พกพา สร้างขึ้นพร้อมกับ Android ทั้งสองกลุ่มจะแบ่งปันวิสัยทัศน์ร่วมกันในการพัฒนาโทรศัพท์แห่งอนาคต
43. Android จะมีส่วนที่เป็น Open Source เรียกกันว่า AOSP ย่อมาจาก Android Open Source Project
44. ความสำเร็จของแอนดรอยด์ ทำให้มีการพัฒนา Custom Rom ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ให้ผู้ใช้เลือกติดตั้งรอมโทรศัพท์ได้ด้วยตนเองอย่างอิสระ
45. ต้นกำเนิดของ Android TV คือ Google TV และมีการสนับสนุนจาก Logitech และ Sony ด้วย
46. การเข้าถึงระบบคุวบคุมเครื่องอย่างเต็มรูปแบบ เรียกว่าการ Root ซึ่งผู้ใช้ระดับ Super User ทุกคนนิยมทำกับโทรศัพท์ที่ใช้งาน
47. ผลิตภัณฑ์ของ Google อย่าง Youtube และแอพฯ Android  TV ออกแบบ UI โดยคิดถึงการแสดงผลบน TV มีเรียกว่า Leanback
48. แอนดรอยด์ 3.0 มีชื่อเรียกว่า Honeycomb ออกแบบเป็นพิเสษสำหรับการใช้งานบนแท็บเล็ตเท่านั้น ไม่เคยมีแอนดรอยด์โฟนรุ่นไหนได้เคยสัมผัสกับแอนดรอยด์เวอร์ชั่นนี้
49. Google มีการทดสอบแอพฯภายในบริษัท เรียกขั้นตอนนี้ว่า Dogfooding
50. ในขณะที่อุปกรณ์ส่วนใหญ่บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยดจะใช้โปรเซสเซอร์แบบ ARM ในการทำงาน ที่จริงแล้วแอนดรอยด์ก็รองรับ X86 ของ Intel ด้วยเช่นกัน

ที่มา:

ไอทีจีเนียส เอ็นจิเนียริ่ง (IT Genius Engineering) ให้บริการด้านไอทีครบวงจร ทั้งงานด้านการอบรม (Training) สัมมนา รับงานเขียนโปรแกรม เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น งานออกแบบกราฟิก และงานด้าน E-Marketing ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้ง SEO , PPC , และ Social media marketting

ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ

Line : @itgenius (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://lin.ee/xoFlBFe
Facebook : https://www.facebook.com/itgeniusonline
Tel : 02-570-8449 มือถือ 088-807-9770 และ 092-841-7931
Email : contact@itgenius.co.th
user
โดย Admin ITGenius
เข้าชม 4,209 ครั้ง

คำค้นหา : บนโลกของมือถือ มีระบบปฏิบัติการยอดนิยมแข่งขันกันอยู่เพียงแค่สองเจ้า iOS ของ Apple และ Android ของ Googleเรื่องราวของ Apple น่าจะเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วมีทั้งหนังสือและภาพยนตร์ออกมามากมาย Android ดูเหมือนเราจะไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับมันมากนัก นอกจากเรื่องที่ Google เป็นคนพัฒนาขึ้นมา Android คือ หุ่นยนต์เพศผู้ เพราะถ้าเพศเมียเราจะเรียกว่า Gynoidในการเชื่อมต่อ Android กับ Computer จะใช้ซอฟท์แวร์ที่เรียกว่า ADB แอพฯ บน Android ส่วนใหญ่จะเขียนด้วย Java ผ่าน Android SDK