ชีวิตคุณติดจอมากเกินไปหรือเปล่า?

ชีวิตคุณติดจอมากเกินไปหรือเปล่า?

หมวดหมู่: บทความทั่วไปTip & Technicข่าวไอที

ชีวิตคุณติดจอมากเกินไปหรือเปล่า? สัญญาณอันตรายทำร้ายดวงตา
ถ้าคุณเป็นคนที่หยิบมือถือมาดูทุก 5 นาที ปล่อยให้มี notification แจ้งเตือนแอพต่างๆ ทิ้งไว้ไม่ได้ วันๆ นั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์มากกว่า 7 ชั่วโมง ก่อนนอนอย่างสุดท้ายที่ทำคือหยิบมือถือมาดู...ถ้าคุณมีพฤติกรรมแบบนี้ คุณก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มีชีวิตติดจอแน่นอน ปัจจุบันนี้ผู้คนมากมายต่างพากันใช้เทคโนโลยี สมาร์ทโฟนมากมาย จนกลายเป็นปัจจัย 5 ที่ใช้ในการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มักจะเห็นแต่ผู้คนก้มหน้าก้มตาเล่นสมาร์ทโฟนของตัวเองกันไปหมด จากรายงานผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2557 (Thailand Internet User Profile 2014) โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พบว่าคนไทยมีพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต เฉลี่ยถึง 7.2 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งนับว่าคนไทยเป็นชาติที่ขาดไอทีไม่ได้ติดอันดับต้นๆ ของโลก

แต่รู้หรือไม่ว่าการจ้องคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตนานเกินไป จะเกิดปัญหาต่างๆ ตามมาโดยเฉพาะสุขภาพตา โรคยอดฮิตที่นับวันยิ่งทะลุเพิ่มมากขึ้นคืออาการ computer vision syndrome ยิ่งคนใช้อุปกรณ์ gadget ต่างๆ โดยเฉพาะมือถือ จะดูตัวหนังสือที่แสดงในจอมีขนาดเล็ก ยิ่งทำให้ต้องเพ่งจอ หรือการใช้จอเป็นเวลานานก็ทำให้เกิดอาการเกร็งตาจนลืมกะพริบตา ก็ทำให้มีอาการตาล้า แสบตา หรือตาพร่าได้

โรค computer vision syndrome
เป็นโรคที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ gadget ทั้งหลายเช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เป็นเวลานานมากเกินไป จนเกิดอาการเกร็งตา ลืมกะพริบตา นานๆ เข้าก็จะมีอาการปวดศีรษะ ตาล้า สายตาพร่ามัว แสบตา เมื่อยคอ ปวดหลัง การที่เราจ้องหน้าจอเป็นเวลานานแล้วเกิดอาการดังกล่าวข้างต้น แสดงว่าคุณเป็น computer vision syndrome หรือ "โรคซีวีเอส"แล้ว

วิธีป้องกันอาการ computer vision syndrome
1. ถ้ารู้สึกตัวว่าจ้องหน้าจอนานเกินไป ให้กะพริบตาให้บ่อยขึ้น หรือพักสายตาโดยการละสายตาจากคอมพิวเตอร์ หลังจากใช้ไปประมาณ 20 และนั่งในท่าที่เหมาะสม ผ่อนคลาย

2. ปรับห้องและบริเวณทำงาน อย่าให้มีแสงจ้าส่องเข้าตามากเกินไปการใช้แผ่นกรองแสงวางหน้าจอ หรือใส่แว่นกรองแสง (ปรึกษาหมอตาก่อน) อาจลดแสงสะท้อนเข้าตาได้บ้าง

3. จัดวางคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม ในระยะทำงานพอเหมาะที่ตามองได้สบายๆ โดยเฉลี่ยระยะจากตาถึงจอภาพควรเป็น 0.45 ถึง 0.50 เมตร จอภาพควรตั้งสูง 0.72-0.75 เมตร เหนือพื้นห้อง ปรับเก้าอี้นั่งให้พอเหมาะ ให้ตาอยู่สูงจากพื้นโดยเฉลี่ย 1.0 – 1.15 เมตร ตาควรอยู่สูงกว่าขอบบนของจอภาพเล็กน้อย

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่สามารถบรรเทาปัญหาทางสายตาได้
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่โดยเฉพาะบิลเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีแอนโทไซยานินสูงช่วยชะลอการเสื่อมของจอประสาทตา และ มีบทบาทสำคัญต่อการถนอมสุขภาพตา เพราะมีงานวิจัยว่า ช่วยลดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นที่เซลล์ของดวงตา จึงช่วยป้องกันเลนส์และจอประสาทตาจากการถูกทำลาย ช่วยคลายความเหนื่อยล้าของดวงตา และช่วยให้ดวงตาแข็งแรง

                    

ปัจจุบันมีการใช้สารสกัดจากผลเบอร์รี่ในรูปผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในการรักษาสุขภาพตาและหลอดเลือด ซึ่งการรับประทานผลเบอร์รี่เพื่อให้ได้ผลในการถนอมดวงตานั้น อาจเลือกรับประทานสดหรือเพื่อความสะดวก อาจเลือกรับประทานในรูปของเบอร์รี่สกัดเข้มข้นก็ได้เช่นกัน

ดังนั้นหากคุณเป็นคนมีชีวิตติดจอไม่ว่าจะเป็น คนทำงาน หรือนักเรียนนักศึกษา ซึ่งจะใช้อุปกรณ์ gadget ต่างๆ เป็นเวลานานๆ ไม่ว่าจะใช้ในการทำงานหรือพักผ่อนคุยกับเพื่อน ควรดูแลสุขภาพดวงตาด้วยการ ไม่ควรจ้องจอนานจนเกินไป พักสายตา มองไปไกลๆบ้าง ดูแลเป็นพิเศษด้วยผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เป็นประจำ

ที่มา:

ไอทีจีเนียส เอ็นจิเนียริ่ง (IT Genius Engineering) ให้บริการด้านไอทีครบวงจร ทั้งงานด้านการอบรม (Training) สัมมนา รับงานเขียนโปรแกรม เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น งานออกแบบกราฟิก และงานด้าน E-Marketing ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้ง SEO , PPC , และ Social media marketting

ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ

Line : @itgenius (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://lin.ee/xoFlBFe
Facebook : https://www.facebook.com/itgeniusonline
Tel : 02-570-8449 มือถือ 088-807-9770 และ 092-841-7931
Email : contact@itgenius.co.th
user
โดย Admin ITGenius
เข้าชม 4,588 ครั้ง

คำค้นหา : ถ้าคุณเป็นคนที่หยิบมือถือมาดูทุก 5 นาที ปล่อยให้มี notification แจ้งเตือนแอพต่างๆ ทิ้งไว้ไม่ได้ วันๆ นั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์มากกว่า 7 ชั่วโมง ก่อนนอนอย่างสุดท้ายที่ทำคือหยิบมือถือมาดู คุณก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มีชีวิตติดจอแน่นอน ปัจจุบันนี้ผู้คนมากมายต่างพากันใช้เทคโนโลยี กลายเป็นปัจจัย 5 ที่ใช้ในการดำรงชีวิต มักจะเห็นแต่ผู้คนก้มหน้าก้มตาเล่นสมาร์ทโฟนของตัวเอง พบว่าคนไทยมีพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต เฉลี่ยถึง 7.2 ชั่วโมงต่อวัน คนไทยเป็นชาติที่ขาดไอทีไม่ได้ติดอันดับต้นๆ ของโลกโรคยอดฮิตที่นับวันยิ่งทะลุเพิ่มมากขึ้นคืออาการ computer vision syndromeอาการเกร็งตาจนลืมกะพริบตา ก็ทำให้มีอาการตาล้า แสบตา หรือตาพร่าได้ ดูแลเป็นพิเศษด้วยผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เป็นประจำ