การเขียน Java Application

การเขียน Java Application

หมวดหมู่: Mobile AppsJavaScriptJava ProgrammingTip & Technic

การเขียน Java Application หลังจากที่เราได้ติดตั้ง Java SDK ไว้สำหรับการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Java ซึ่งในบทความก่อนหน้านี้ได้ยกตัวอย่างบน 2 OS หลัก ๆ คือ Windows และ Mac รวมทั้งการติดตั้ง IDE ทั้ง Eclipse และ Netbeans แต่ในบทความจากนี้ต่อไป ผมจะเน้นการใช้ Eclipse เป็นหลัก แต่รูปแบบการเขียนก็ไม่ต่างอะไรกับ Netbeans เท่าไหร่ นัก เพราะฉะนั้นสามารถเรียนรู้ได้ทั้ง 2 IDE ได้ไปพร้อม ๆ กัน

ในบทความนี้เราจะมาเริ่มต้นการเขียน Java ตั้งแต่การสร้าง Project บนโปรแกรม Eclipse และการเขียนโปรแกรมแบบง่าย ๆ ทำความเข้าใจคำสั่งพื้นฐานว่า Java มีรูปแบบการเขียนอย่างไร และตอนที่แสดงผลนั้นจะมีรูปแบบอย่างไร

เปิดโปรแกรม Eclipse

Java Basic

เปิดโปรแกรม Eclipse

Java Basic

ในขั้นแรกจะกำหนด workspace เป็น Folder สำหรับจัดเก็บไฟล์

Java Basic

หน้าจอแรกของโปรแกรม Eclipse


การสร้าง Project ของ Java บน Eclipse

Java Basic

File -> New -> Java Project

Java Basic

กำหนดชื่อ Project name และเลือก Version ของ Java ในที่นี้เลือก JavaSE-1.7

Java Basic

เลือก Finish

Java Basic

จากนั้นเราจะได้โครงสร้างของโปรเจค ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีไฟล์ .java จะมีแต่ JRE (เป็น Library หรือ API ต่าง ๆ ที่เราสามารถเรียกใช้ได้ ตัวนี้จะมาพร้อมกับ Java SDK)


การสร้างไฟล์ .java บนโปรแกรม Eclipse

Java Basic

คลิกขวาที่ Project -> New -> Class

Java Basic

เลือก Source Folder / Package ให้กำหนดเป็นค่า Default และกรอกชื่อ Class โดยตั้งชื่อเป็น myClass

Java Basic

เราจะได้ชื่อ Class ว่า myClass.java พร้อมกับค่า Default ในการประกาศ Class ส่วน JRE ยังไม่ต้องทำอะไรกับมัน

การเขียนคำสั่งบน Class 

Java Basic

ในภาษา Java การเขียนจะเป็นแบบ OOP ทั้งหมด เฉพาะฉะนั้นเราจะเริ่มต้นด้วยการประกาศชื่อ Class และใน Class ก็จะประกอบด้วย Method ต่าง ๆ โดย Method แรกที่จะชื่อว่า main (เป็น Method หลัก) ซึ่งจะทำงานเมื่อ Class ถูกเรียกใช้งาน

สำหรับพื้นฐานเกี่ยวกับ Class กับ Method สามารถอ่านได้จากหัวข้อถัดไป
 

01.class  myClass {

02. 

03.public static void main(String[] args) {

04.System.out.println("**********************************************");

05.System.out.println("Welcome to the java world.. by ThaiCreate.Com");

06.System.out.println("**********************************************");

07.}

08. 

09.}


จากตัวอย่างเป็นการประกาศ Class ชื่อว่า myClass จากนั้นมี Method ชื่อว่า main ซึ่งจะทำงานแรกสุดเมื่อ Class ถูกเรียกใช้งาน หลังจากนั้จะมีคำสั่ง System.out.println ซึ่งจะแสดง Output ออกทางหน้าจอ

Java Basic

การ Build Project ของ Java สามารถเลือกได้ที่เมนู Project -> Build All

Java Basic

การรัน Project เลือกที่ Run -> Run

Java Basic

ผลลัพธ์แบบง่าย ๆ จากคำสั่งที่เขียนในข้างต้น

จากตัวอย่างนี้เราจะเห็นว่า Java สามารถแสดงผลออกทางหน้าจอแบบง่าย ๆ แต่หลาย ๆ ท่านอาจจะยังสงสัยว่าแต่ Java มันสามารถทำอะไรได้บ้าง ในเมื่อสิ่งที่เห็นสามาถแสดงแค่ข้อความง่าย ๆ เท่านั้น แต่ในการเขียน Java กับ Application อื่น ๆ แล้ว จะมี Library หลากหลาย ขึ้นอย่กับว่าเราจะเขียนรวมกับอะไร เช่น ในกรณีที่เขียนร่วมกับ JSP เราก็จะใช้ HTML เป็นหน้าจอ Design และใช้ Java เขียนเพื่อทำงานบางส่วนเท่านั้น (คล้าย ๆ กับ PHP) หรือในกรณีที่เขียมร่วมกับ Android เราก็จะใช้ XML ในการเป็น User Interfaceและจะใช้ Java ทำงานแค่บางส่วนเท่านั้น

หรือในกรณีที่จะเขียน Java บน Desktop ก็จะมีพวก Library ของ swing ซึ่งเป็น Java GUI ที่ใช้ออกแบบสร้าง Form ต่าง ๆ ลองมาดูตัวอย่างแบบง่าย ๆ 

Example : 1
 

01.import javax.swing.*;

02.import java.awt.*;

03. 

04.class  myClass {

05. 

06.public static void main(String[] args) {

07.JFrame f = new JFrame("A JFrame");

08.f.setSize(250, 250);

09.f.setLocation(300,200);

10.f.getContentPane().add(BorderLayout.CENTER, new JTextArea(10, 40));

11.f.setVisible(true);

12.}

13. 

14.}



Screenshot

Java Basic


Example : 2
 

01.import javax.swing.*;

02. 

03.public class myClass extends JFrame {

04. 

05.public static void main(String[] args) {

06.myClass frameTabel = new myClass();

07.}

08. 

09.JLabel welcome = new JLabel("Welcome to ThaiCreate.Com");

10.JPanel panel = new JPanel();

11. 

12.myClass() {

13.super("ThaiCreate.Com Tutorial Java");

14.setSize(300, 200);

15.setLocation(500, 280);

16.panel.setLayout(null);

17. 

18.welcome.setBounds(70, 50, 150, 60);

19. 

20.panel.add(welcome);

21. 

22.getContentPane().add(panel);

23.setDefaultCloseOperation(JFrame.EXIT_ON_CLOSE);

24.setVisible(true);

25.}

26. 

27.}



Screenshot

Java Basic


Example : 3
 

01.import javax.swing.*;

02.import java.awt.*;

03. 

04.class  myClass {

05. 

06.public static void main(String[] args) {

07.JFrame f = new JFrame("This is a test");

08.f.setSize(400, 150);

09.Container content = f.getContentPane();

10.content.setBackground(Color.white);

11.content.setLayout(new FlowLayout());

12.content.add(new JButton("Button 1"));

13.content.add(new JButton("Button 2"));

14.content.add(new JButton("Button 3"));

15.f.setVisible(true);

16.}

17.}



Screenshot

Java Basic

ไอทีจีเนียส เอ็นจิเนียริ่ง (IT Genius Engineering) ให้บริการด้านไอทีครบวงจร ทั้งงานด้านการอบรม (Training) สัมมนา รับงานเขียนโปรแกรม เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น งานออกแบบกราฟิก และงานด้าน E-Marketing ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้ง SEO , PPC , และ Social media marketting

ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ

Line : @itgenius (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://lin.ee/xoFlBFe
Facebook : https://www.facebook.com/itgeniusonline
Tel : 02-570-8449 มือถือ 088-807-9770 และ 092-841-7931
Email : contact@itgenius.co.th
user
โดย Admin ITGenius
เข้าชม 6,749 ครั้ง

คำค้นหา : การเขียนโปรแกรม Java ApplicationWindowsMacการติดตั้ง IDE