เจาะลึก LG G7 ThinQ มือถืออัจฉริยะตัวใหม่

เจาะลึก LG G7 ThinQ มือถืออัจฉริยะตัวใหม่ ที่เป็นความหวังสำคัญของ LG ในตลาดมือถือ
ถึงแม้ว่าตอนนี้สถานะการมือถือ LG ในประเทศไทยจะคาดเดายากว่าจะกลับมาได้หรือไม่ แต่ทั่วโลกนั้นเพิ่งตื่นเต้นกับการเปิดตัว LG G7 ThinQ ซึ่งเป็นมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดอย่างที่ทราบกันดี

รูปร่างของ LG G7 ThinQ

ครั้งนี้ LG เลือกใช้หน้าจอของ LG G7 ThinQ ให้มีขนาด 6.1 นิ้ว อัตราส่วนหน้าจอ 19.5:9 ถือว่าใหญ่และอัตราส่วนมากที่สุดในบรรดามือถือทั้งหมด แต่ขนาดของเครื่องกลับไม่ได้ใหญ่เท่าไหร่ ความละเอียดอยู่ที่ 3120x1440

เทคโนโลยีหน้าจอกลับใช้เป็น IPS LCD แต่ได้เทคโนโลยี M+Panel ทำให้สีที่แสดงผลออกมาเป็นแบบ RGBW และได้ความสว่างหน้าจอระดับ 1000 nits รองรับการแสดงผล HDR พร้อมกับกระจกกันรอยแบบ Gorilla Glass 5 ด้วย

เพียงแต่ว่าเห็นหน้าจอขนาดนี้ความจริงแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนบนนั้นจะเป็นการแสดงผลที่สามารถเลือกเปิดปิดได้ คิดง่ายๆ เหมือนกับ Huawei P20 และมีปุ่มด้านข้างเพิ่มขึ้นมาคือ ปุ่ม Google Assistant สำหรับสั่งงานด้วยเสียงนั่นเอง

ด้านหลังเป็นกระจกพร้อมกล้องหลัง 2 ตัวและรองรับทั้ง Wireless Charging และ NFC และตัวเครื่องนั้นออกแบบให้กันน้ำในระดับ IP68 และ MIL-STD-810G เท่ากับ LG G6

สเปคของ LG G7 ThinQ

เลือกใช้ CPU Qualcomm Snapdragon 845, RAM 6GB ความจำ 128GB เพิ่มความจำได้ด้วย Micro SD รองรับ LTE Cat16 ให้ความเร็วสูงสุดที่ 1Gbps/150Mbps รองรับ Dual SIM ในบางตลาด แถมแบตเตอรี่ถึงแม้จะมีขนาด 3000 mAh แต่มีเทคโนโลยีถนอมแบตเตอรี่ Qnovo ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้อยู่ได้นานมากขึ้น, Quick Charge 3.0

ฟีเจอร์เด็ดๆ ของ LG G7 ThinQ

ยังคงให้ความสำคัญแบบสมดุลทั้งระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ปรับแต่งพร้อมลูกเล่นประจำของ LG ที่ยังคงใช้งานง่ายและคุ้นเคย และมี AI Pack ไว้ใช้งานภายในเครื่องและสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่รองรับ ThinQ

ระบบเสียงครั้งนี้มีการเพิ่มลูกเล่นใหม่ โดยเรียกว่า  Boom Box stereo ให้พลังเสียงที่หนักทั้งลำโพงบนและล่าง มีการติดตั้ง DTS-X จำลองเสียงลำโพงมือถือเป็นแบบ 7.1 Channel ครั้งแรกบนมือถือ จัดได้ว่าเป็นมือถืออีกรุ่นที่เหมาะกับการฟังเพลงเลยก็ว่าได้

และข่าวดีคือ ช่องเสียบหูฟังยังมี แถมมีการติดตั้ง 32-bit Hi-Fi Quad DAC ให้ด้วย และตัวเครื่องรองรับการสั่งงานด้วยเสียงจาก Google Assistant ได้ไกลถึง 5 เมตร เลยทีเดียว

ส่วนกล้องนั้น LG จะส่วนทางกับชาวบ้านเล็กน้อยโดยให้กล้องหลัง 2 ตัวเหมือนกัน เพียงแต่ว่า กล้องหลังตัวแรกจะมีความละเอียดที่ 16 ล้านพิกเซล องศาเลนส์ 71 องศา สามารถถ่ายแบบกว้างได้ พร้อมกับรูรับแสง F1.6 มีระบบกันสั่นให้ครบ พร้อมกับ Laser Focus และ LED Flash

ส่วนกล้องอีกตัวความละเอียดเท่ากัน แต่ได้ F1.9 ไม่มีระบบ Auto Focus และมุม 107 องศา พร้อมกับมี AI Camera ที่ปรับโหมดการถ่ายภาพเองตามรูปแบบที่เห็น และกล้องหน้าขนาด 8 ล้านพิกเซล ให้มุมมอง 90 องศา

จากที่บอกมาทั้งหมดนี้ทีม Sanook! Hitech มีความคิดเห็นโดยรวมกับ LG G7 ThinQ ว่า เป็นมือถือที่ให้ความสำคัญในเรื่องลูกเล่นครบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกล้องที่ให้มุมกว้างและการถ่ายภาพกลางคืนก็ยังไม่ทิ้ง แถมได้ AI Cam ฟีเจอร์ใหม่ของ LG ที่ทำให้การถ่ายภาพนั้นสวยงามเข้ามาเพิ่ม ประกอบกับเสียงที่ดีกว่ารุ่นเดิมจนเป็น Stylish Smart Phone เพื่อความบันเทิงมากกว่า

LG G7 ThinQ มีให้เลือก 4 สีได้แก่ Platinum Gray, Aurora Black,Moroccan Blue และ Raspberry Red ซึ่งตัวเครื่องพร้อมจำหน่ายทั่วโลกเร็วๆ นี้ ส่วนบางประเทศ รวมไปถึงประเทศไทยคงต้องลุ้นหนักหน่อยนะครับ

ที่มา: