ฟีเจอร์ใหม่ช่วยจัดการมิจฉาชีพ ไม่โดนหลอกโอนเงิน

ฟีเจอร์ใหม่ช่วยจัดการมิจฉาชีพ ไม่โดนหลอกโอน


ในปัจจุบัน อัตราการเกิด "ภัยไซเบอร์" เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับคนไทย ทั้งในด้านชื่อเสียงและการเงิน ด้วยวิธีต่างๆ เช่น หลอกให้โอนเงินก่อน , หลอกขายสินค้าออนไลน์, ปลอมแปลงเว็บไซต์แอบอ้างเป็นหน่วยงานรัฐ รวมถึง SMS และ LINE ปลอมที่แฝงลิงก์ไวรัสเอาไว้

มิจฉาชีพเหล่านี้ไม่เคยเลือกเหยื่อ และยังไม่เคยย่อท้อหรือหยุดหามุกใหม่ๆ มาลวงผู้คน โดยมีวิธีหลายแบบตั้งแต่การโทร ไปจนถึงใช้ AI Deepfake มาช่วยปลอมเสียง-ภาพ เพื่อโน้มน้าวให้เหยื่อบอกข้อมูลส่วนตัว รวมถึงหลอกให้โอนเงินอย่างแนบเนียน ซึ่งหลายคนหลงเชื่อและสูญเงินไปเกือบหมดตัว

ทำ 5 สิ่งนี้ ถ้าไม่อยากตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ 

พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เผยว่า ภัยไซเบอร์ในประเทศไทยถูกพบมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มเกษตรกรและผู้สูงอายุนั้นมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกหลอกผ่าน SMS หรือ LINE ที่แอบอ้างว่าเป็นหน่วยงานรัฐเพื่อเสนอเงินช่วยเหลือ รวมไปถึงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ก่อนจะทำเป็นเนียนให้ผู้เสียหายโอนเงิน

ซึ่งตำรวจไซเบอร์ (บช.สอท.) ได้แนะนำ 5 วิธีสังเกตและป้องกันภัยจากมิจฉาชีพที่ใช้ AI และเทคโนโลยีหลอกลวง ดังนี้

1. ระวังการขอข้อมูลส่วนตัว
   หากมีการขอข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลทางการเงิน ควรระมัดระวังและไม่ให้ข้อมูลทันที
2. ตรวจสอบแหล่งที่มา
   ให้ตรวจสอบแหล่งที่มาหรือหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ติดต่อก่อน
3. อย่ารีบทำธุรกรรมทางการเงิน
   หากมีการขอให้โอนเงินหรือทำธุรกรรมทันทีจากคนที่ไม่รู้จัก อย่าทำการโอนจนกว่าจะยืนยันข้อมูลหรือถามคำปรึกษาจากคนใกล้ชิด
4. ใช้การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน
   ตั้งค่าการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (Two-Factor Authentication) ในบัญชีออนไลน์เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
5. เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี AI
   ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI และการใช้งาน เพื่อให้สามารถแยกแยะระหว่างสิ่งที่เป็นจริงและสิ่งที่เป็นการหลอกลวงได้

ฟีเจอร์ใหม่หนุนคนไทยให้รู้ทันกลโกง

อีกหนึ่งวิธีการป้องกันภัยไซเบอร์ที่น่าสนใจคือ "บริการเเจ้งเตือนภัยมิจฉาชีพ" ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่าง บช.สอท. และ ธ.ก.ส. โดยมีเป้าหมายว่าต้องการสร้างเกาะป้องกันและการรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ให้กับคนไทยผ่าน LINE Official BAAC Family เพื่อให้เข้าถึงคนทุกกลุ่มง่ายขึ้น

โดยฟีเจอร์นี้จะช่วยตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ บัญชีม้าหรือบัญชีปลอมต้องสงสัย เว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยและอันตราย และสามารถแจ้งเหตุการฉ้อโกง รวมถึงเตือนภัยมิจฉาชีพได้สะดวกทุกที่ ทุกเวลา แบบ "All in one place" ครบจบในแชตเดียว ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการบริการ 

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เผยว่า นี่ถือเป็นก้าวแรกของการพัฒนาและยกระดับช่องทางการสื่อสารดิจิทัลต่างๆ ของธนาคารไปสู่การเป็นแพลตฟอร์ม "Digital Life Partner" ที่ไม่ใช่เพียงการให้บริการทางด้านการเงินการธนาคาร แต่ยังครอบคลุมถึงการให้ความรู้ ด้านการบริหารจัดการรายได้ การพัฒนาอาชีพ การดูแลสุขภาพ และความปลอดภัยในด้านทรัพย์สิน เพื่อให้คนไทยสามารถใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย และป้องกันตัวเองจากอาชญากรรมการเงิน

ดังนั้นอย่าลืมที่จะตรวจสอบให้ดีก่อนโอนเงินทุกครั้ง เพื่อไม่ให้ตัวเองตกเป็นหนึ่งในเหยื่อของมิจฉาชีพ


ที่มา: thairath.co.th/money/personal_finance/financial_planning/2864046