นิสัยดื่มน้ำที่ผิด ภัยเงียบที่คนมองข้าม น้ำเปล่าธรรมดาก็อาจทำร้ายไตได้

นิสัยดื่มน้ำที่ผิด ภัยเงียบที่คนมองข้าม น้ำเปล่าธรรมดาก็อาจทำร้ายไตได้

หมวดหมู่: บทความทั่วไปTip & Technic

10 นิสัยดื่มน้ำที่ผิด ภัยเงียบที่คนมองข้าม น้ำเปล่าธรรมดาก็อาจทำร้ายไตได้


10 นิสัยดื่มน้ำที่ผิด ภัยเงียบที่คนมองข้าม น้ำเปล่าธรรมดาก็ทำร้ายไตได้ เสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน

 

แม้ว่าจะดื่มน้ำเพียงพอ แต่ยังรู้สึกกระหายน้ำอยู่บ่อยๆ อาจเป็นเพราะดื่มน้ำผิดวิธี ส่งผลเสียต่อร่างกาย! นักโภชนาการ เกา หมินหมิน เตือนว่า หลายคนดื่มน้ำเพียงพอในแต่ละวัน แต่ยังรู้สึกแห้งกระหายน้ำ เหนื่อยล้า หรือมีปัญหาการเผาผลาญอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจาก “นิสัยดื่มน้ำผิด” เธอได้รวบรวม 10 วิธีดื่มน้ำผิดพบบ่อย เพื่อเตือนให้หลีกเลี่ยง เพราะอาจทำให้ไตทำงานหนัก เลือดข้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อ โรคหลอดเลือดสมอง และ กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน

 

1. ดื่มน้ำน้อยกว่า 1,000 มล. ต่อวันแต่ไม่รู้ตัว
การขาดน้ำเรื้อรังทำให้เหนื่อยง่าย การเผาผลาญช้า ปัสสาวะติดเชื้อซ้ำบ่อย และอาจทำให้เกิด ความดันสูง เกาต์ นิ่ว ควรจดบันทึกปริมาณน้ำที่ดื่ม แนะนำให้ดื่มน้ำคิดเป็น 3–4% ของน้ำหนักตัว และดื่มเป็นรอบๆ หลีกเลี่ยงการดื่มทีเดียวมากเกินไป

 

2. ดื่มน้ำมากเกินไปคิดว่าดีต่อสุขภาพ
ดื่มน้ำมากเกินไปอาจเจือจางเกลือแร่ในร่างกาย ทำให้เกิด ภาวะโซเดียมต่ำ ไตทำงานหนัก และอาจนำไปสู่ โรคไตเรื้อรัง จำกัดการดื่มน้ำไม่เกิน 4% ของน้ำหนักตัว และห้ามดื่มเร็วเกินไป

 

3. มีข้อจำกัดด้านการดื่มน้ำจากโรคประจำตัว
ผู้ป่วย หัวใจล้มเหลว ตับแข็ง ผู้ฟอกไต หากดื่มน้ำมากเกินไปอาจเกิด ปอดบวมน้ำเฉียบพลัน แนะนำปรับปริมาณน้ำตามสูตร “ปริมาณปัสสาวะเมื่อวาน + 500–700 มล.”

 

4. ชอบดื่มน้ำแร่แทนน้ำเปล่า
น้ำแร่บางชนิดมี เกลือแร่สูง อาจเพิ่มภาระไต โดยเฉพาะผู้ป่วยไต ควรใช้น้ำประปาที่กรองและต้มสุกเพียงพอ

 

 

5. ดื่มน้ำแก้วแรกหลังตื่นสายเกินไป
ช่วงเช้า ร่างกายสูญเสียน้ำมากที่สุด หากไม่ดื่มน้ำเลือดอาจข้นขึ้น เพิ่มความเสี่ยง โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ แนะนำดื่มน้ำอุ่น 250 มล. หลังตื่นนั่งอยู่ข้างเตียง

 

6. กลัวปัสสาวะบ่อยหรือโรคเบาหวานจึงดื่มน้ำน้อย
การไม่ดื่มน้ำระยะยาวทำให้โรคเดิมรุนแรงขึ้น ไตเสื่อมเร็วกว่าเดิม ควรแก้ปัญหาปัสสาวะบ่อยและดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ

 

7. อากาศหนาวจึงขี้เกียจดื่มน้ำ
อากาศเย็นทำให้ รู้สึกไม่กระหาย แต่ร่างกายยังเสียเหงื่อและน้ำอยู่ อาจทำให้เลือดข้น เพิ่มความเสี่ยง หัวใจและสมอง แนะนำดื่มน้ำทุก 2 ชั่วโมง แม้ไม่กระหาย

 

8. ดื่มน้ำมากก่อนนอน
อาจทำให้ ปัสสาวะกลางคืนบ่อย และกระทบระบบประสาทอัตโนมัติ เสี่ยงต่อระบบภูมิคุ้มกันและเมตาบอลิซึม แนะนำควบคุมน้ำหลังอาหารเย็นไม่เกิน 20% ของปริมาณทั้งหมด และดื่มน้ำก่อนนอนไม่เกิน 150 มล.

 

9. ใช้เครื่องดื่มหวานแทนน้ำเปล่า
เครื่องดื่มที่มี น้ำตาลหรือคาเฟอีน นอกจากมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ยังเพิ่มภาระเมตาบอลิซึมและไต ควรดื่มน้ำเปล่าเป็นหลัก เครื่องดื่มไม่เกิน 10% ของน้ำทั้งหมด เลือกชาไม่หวาน

 

10. ดื่มน้ำเปล่ามากหลังออกกำลังกายหรืออาบน้ำร้อน
การเสียเหงื่อมากทำให้สูญเสีย เกลือแร่ หากดื่มน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวอาจเกิด ภาวะโซเดียมต่ำ สมองบวม ชักหมดสติ ควรดื่ม น้ำเกลือหรือเครื่องดื่มกีฬาแบบน้ำตาลต่ำ

 

 

ขอขอบคุณข้อมูล :CTWANT

ไอทีจีเนียส เอ็นจิเนียริ่ง (IT Genius Engineering) ให้บริการด้านไอทีครบวงจร ทั้งงานด้านการอบรม (Training) สัมมนา รับงานเขียนโปรแกรม เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น งานออกแบบกราฟิก และงานด้าน E-Marketing ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้ง SEO , PPC , และ Social media marketting

ติดต่อเราเพื่อสอบถามผลิตภัณฑ์ ขอราคา หรือปรึกษาเรื่องไอที ได้เลยค่ะ

Line : @itgenius (มี @ ด้านหน้า) หรือ https://lin.ee/xoFlBFe
Facebook : https://www.facebook.com/itgeniusonline
Tel : 02-570-8449 มือถือ 088-807-9770 และ 092-841-7931
Email : contact@itgenius.co.th

แนะนำหลักสูตรอบรมที่น่าสนใจ

user
โดย Nong-beam
เข้าชม 46 ครั้ง

คำค้นหา : การดื่มน้ำดื่มน้ำเปล่าดื่มน้ำน้อยโรคไตภัยของน้ำเปล่านิสัยการดื่มน้ำการดื่มน้ำก่อนอาหาร10 นิสัยดื่มน้ำที่ผิดน้ำน้ำเปล่าการดื่มน้ำเกินขนาดการดื่มน้ำน้อยภัยของการกินน้ำน้อย